“Luxury Train” ยกระดับการเดินทางของผู้มีเงินและความสุนทรี...ด้วยรถไฟขบวนหรู
หลายท่านอาจจะนึกถึงภาพการเดินทางด้วยรถไฟที่ช้า ไม่ตรงต่อเวลา และรถที่มีสภาพเก่า แต่ยังมีรถไฟบางขบวนที่ให้บริการเหมือนกับโรงแรมห้าดาวที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีห้องพักที่หรูหราและสะดวกสบาย ให้บริการอาหารที่ปรุงด้วยเชฟฝีมือเยี่ยม และมีการแวะเที่ยวสถานที่สำคัญที่อยู่สองข้างทาง ทำให้การเดินทางด้วยขบวนรถไฟเหล่านี้ไม่ได้เน้นไปให้ถึงจุดหมายการเดินทาง แต่เน้นการท่องเที่ยวและพักผ่อนระหว่างการเดินทาง แถมด้วยขบวนรถแบบนี้ยังมีให้บริการในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งรถไฟแบบนี้เรียกกันว่า “Luxury Train”
ในอดีตการเดินทางด้วยรถไฟในเส้นทางที่ยาวไกลไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร เนื่องจากผู้โดยสารต้องนั่งหลับบนที่นั่งของตนเอง และที่นั่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถปรับเอนได้ ต่อมา ‘George M. Pullman’ จึงเห็นโอกาสทางธุรกิจและเปิดให้บริการขบวนรถ “Pioneer” ที่มีห้องโดยสารสามารถปรับเป็นที่นอนได้ขบวนแรกในปี 1865 โดยเริ่มต้นการให้บริการระหว่างเมืองชิคาโกและสปริงฟิลด์ในประเทศสหรัฐอเมริกา และในสองปีถัดมา Pullman ได้เปิดให้บริการ Hotel train ที่นอกจากเป็นรถไฟตู้นอนแล้ว ยังมีบริการห้องอาหาร ที่แต่เดิมนั้นผู้โดยสารต้องลงไปซื้ออาหารตามสถานี
เมื่อขบวนรถไฟแบบนี้เริ่มได้รับความนิยมจึงมีผู้ให้บริการหลายรายออกแบบและเพิ่มเติมความหรูหรารวมถึงความสะดวกสบายต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะมองว่าการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราเหล่านั้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรถไฟของตน และสามารถเก็บค่าโดยสารได้สูงขึ้นจึงเป็นจุดกำเนิดของ “Luxury Train”
ภาพจาก: https://www.historyhit.com/what-was-it-like-to-ride-a-victorian-luxury-train/
ถึงแม้ในปัจจุบัน จะมีทางเลือกการเดินทางได้หลายแบบที่ใช้ระยะเวลาน้อยกว่า และค่าโดยสารถูกกว่า แต่การให้บริการรถไฟหรูก็ยังคงมีอยู่ในหลายเส้นทาง เพราะการใช้บริการรถไฟแบบนี้เน้นการได้รับประสบการณ์ระหว่างการเดินทางพร้อมกับสิ่งอำนวยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว ที่บางห้องติดตั้งอ่างอาบน้ำด้วย ห้องอาหารที่ให้บริการแบบ fine dinning จากเชฟมากฝีมือ ห้องนั่งพักผ่อนสำหรับจิบชายามบ่าย นอกจากนั้นบางขบวนยังมีรถชมวิวที่เปิดโล่งเพื่อให้สัมผัสได้ถึงอากาศภายนอก หรือห้องสปาสำหรับผ่อนคลายจากการเดินทาง ในวันนี้จึงขอแนะนำตัวอย่างขบวนรถไฟหรูที่มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว
มาเริ่มต้นกันด้วยรถที่ให้บริการในทวีปยุโรป นั้นคือขบวน “Venice Simplon-Orient-Express” ที่ให้บริการระหว่างลอนดอนและเวนิส ซึ่งรถไฟสายนี้ยังเป็นฉากดำเนินเรื่องในนวนิยาย Murder on the Orient Express ของ ‘อกาธา คริสตี้’ นักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนชื่อดัง ผ่านวิวที่สวยงามของประเทศในยุโรป โดยเฉพาะช่วงระหว่าง Brenner และ Innsbruck ในประเทศออสเตรีย ส่วนของห้องพักที่ให้บริการมีทั้งแบบห้องเดี่ยวและห้องคู่ นอกจากนั้นยังมีห้องสูทที่มีการตกแต่งเป็นรูปแบบเฉพาะอีก 6 ห้อง และตั้งชื่อตามเมืองต่าง ๆ ที่รถไฟขวบวนนี้เคยวิ่งผ่าน โดยการเดินทางใช้ระยะเวลา 2 วัน มีค่าโดยสารเริ่มต้นที่คนละ 110,000 บาท
ภาพจาก: www.belmond.com
ข้ามฝั่งไปที่ประเทศแคนาดา ก็มีรถไฟหรูที่มีชื่อเสียงอย่างขบวน “Royal Canadian Pacific” ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเคยให้การต้อนรับราชวงศ์และผู้นำประเทศหลายครั้ง ในส่วนของโปรแกรมการเดินทางก็มีให้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเลาะริมเทือกเขาร็อกกี้ ที่ใช้ระยะเวลาเดินทาง 5 วัน หรือโปรแกรม 4 วัน ที่ให้เลือกว่าจะไปเส้นทางริมมหาสมุทรแปซิฟิกหรือผ่านทุ่งหญ้าแพร์รี่ โดยมีค่าโดยสารเริ่มต้นคนละ 300,000 บาท
ภาพจาก: www.royalcanadianpacific.com
ลงใต้ไปที่ประเทศเปรูก็มีรถไฟหรูอย่างขบวน “Belmond Andean Explorer” ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการในปี 2017 และเป็นรถไฟ Luxury Train ขบวนแรกที่ให้บริการในอเมริกาใต้ ให้บริการบนเส้นทางที่ราบสูงเปรูที่มีระดับความสูงไม่น้อยกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดังนั้นในห้องพักทุกห้องจึงต้องมีจุดจ่ายออกซิเจนเพราะอากาศในที่สูงจะเบาบางกว่าปกติ และอาจมีอาการแพ้ความสูง (Altitude sickness) ได้ นอกจากนั้นยังมีสปาบนรถเพื่อการผ่อนคลายระหว่างการท่องเที่ยว ในส่วนโปรแกรมการท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ทั้งแบบ 2 วัน เพื่อชมวิวของเทืองเขาแอนดิส หรือ 3 วันเพื่อไปท่องเที่ยวอารยธรรมอินดาและทะเลสาบติติกากา โดยมีค่าโดยสารเริ่มต้นคนละ 36,000 บาท
ภาพจาก: www.belmond.com
